
ไม่รู้ซินะ ปกติเป็นคนที่เวลาว่างๆ ชอบแอบนอนดูดาว ก็แบบว่าดาวบนท้องฟ้าสวยนะ บางทีก็ปล่อยอารมณ์ไป จินตนาการเหมือนโยงเส้นจากดาวแต่ละดวง เป็นรูปโน้นรูปนี้บ้าง ค่ำคืนนี้ อยากจะชวนสาว Chic มาพักผ่อนนอนเล่นบนดาดฟ้าโล่งๆ จะกางเก้าอี้ผ้าใบนอนเอกเขนกที่ริมระเบียง หรือจะแหงนมองผ่านหน้าต่างไปบนท้องฟ้าก็ดี ลมเย็นๆ พัดมา เป็นการพักผ่อนที่รีเล็กซ์ดีจัง แหม ถ้าได้ใครสักคนที่่รู้ใจมาอิงแอบแนบสนิท มานอนนับดาวด้วยกัน ก็แสนจะโรแมนติก มีความสุขมากมายไม่ใช่เล่น ไปโน่นแล้ว สาวๆ Chic ของเราหลายคนเกือบหายเข้าไปผืนฟ้าและหมู่ดาวแล้ว เอาเป็นว่าเข้าเรื่องก่อน อยากจะถามว่า เวลาที่สาว Chic มองไป เคยจินตนาการดวงดาวระยิบระยับนับล้านบนผืนฟ้าเป็นรูปอะไรกันบ้าง หลายคำตอบ บ้างเห็นเป็นรูปตะบวยตักน้ำ รูปลูกไก่ รูปคันไถ รูปเต่า รูปจรเข้ รูปหมีใหญ่ รูปแมงป่อง รูปสิงโต เป็นต้น ในบรรดากลุ่มดาวเหล่านั้น มีดาวอยู่ 12 กลุ่มดาว ที่มีชื่อว่า กลุ่มดาวจักรราศี (Zodiac) ทั้ง 12 ซึ่งทางดาราศาสตร์ (Astronomy)และโหราศาสตร์ (Astrology) ให้ความสนใจพิเศษ และเชื่อว่ามีอิทธิพลกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ บนโลกใบนี้
![]() |
ก็ตั้งแต่ต้น บอกแล้ววันนี้จะชวนสาว Chic ดูดาว ก่อนจะชวนคุยอะไรต่อมิอะไร คงจะต้องมาเข้าใจพื้นฐานการดูดาวเสียก่อน เริ่มเลยนะคะ เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ มาทำความรู้จักกับท้องฟ้า ![]() ![]() เมื่อโลกหมุนพาสังเกตไป อยู่ ณ ตำแหน่ง 1 และ 3 ผู้สังเกตจะเห็นดวงอาทิตย์อยู่ทิศเดียวกันหรือไม่ เพราะเหตุใด เมื่อผู้สังเกตมาอยู่ ณ ตำแหน่งที่ 1 2 3 และ 4 จะเป็นเวลาประมาณเท่าใด เมื่อเรามีความเข้าใจในเรื่องทรงกลมท้องฟ้าและระนาบขอบฟ้า รวมทั้งหลักเกณฑ์การกำหนดทิศบนโลกแล้ว ให้เรากำหนด เหนือ-ใต้ ตะวันออก-ตะวันตก ณ ตำแหน่งที่เรายืนอยู่ จากนี้ ให้เราสังเกตการเคลื่อนที่ของวัตถุท้องฟ้า เช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่าง ๆ เป็นต้น วัตถุท้องฟ้ามีการเคลื่อนที่อย่างไร ทำไมเราจึงสังเกตเห็นวัตถุท้องฟ้ามีการเคลื่อนที่ในแต่ละวัน ถึงตรงนี้ คงเข้าใจคำบางคำตามหลักดาราศาสตร์กันแล้ว จะได้ไปดูดาวกันเสียที การสังเกตดาวระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้า ในสมัย โบราณนั้น มลภาวะทางแสงจะน้อยกว่าปัจจุบัน จะเห็นดาวฤกษ์ดาดดื่นเต็มท้องฟ้าไปหมด และสังเกตเห็นการอยู่รวมกันของกลุ่มดาวฤกษ์เป็นกลุ่มเป็นพวก ที่เราเรียกกันว่า กลุ่มดาว (Constellation ซึ่งมาจากคำว่า Con แปล ว่าอยู่ด้วยกัน กับคำว่า Stella แปลว่า ดาวฤกษ์) ทำให้คนในสมัยโบราณได้จินตนาการกลุ่มดาวบนท้องฟ้า เป็นรูปคน รูปสัตว์ต่างๆ กัน โดยเมื่อ 2,000 ปีก่อน พโทเลมี นักปราชญ์ชาวกรีกได้แบ่ง กลุ่มดาวเอาไว้จำนวน 48 กลุ่ม โดยไม่ได้มีกลุ่มดาวทางซีกฟ้าใต้ เนื่องจากไม่ได้เห็นบนท้องฟ้า จนกระทั้งปี ค.ศ. 1930 องค์การดาราศาสตร์สากล ( Internation Astronomical Union หรือ IAU) ได้ตกลงแบ่งเขตกลุ่มดาวให้ชัดเจนขึ้น โดยกำหนดใช้พิกัด R.A และ Dec กำหนดกลุ่มดาวทั่วท้องฟ้า และแบ่งกลุ่มดาวฤกษ์ออกเป็น 88 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มกำหนดไว้ในรูปของตัวบุคคล เครื่องมือสัตว์ต่าง ๆ ในเทพนิยาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทพนิยายกรีก ซึ่งเป็นนิยายปรัมปราที่มีการเล่าขานสืบต่อมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล และยังเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน การกำหนดเช่นนี้ทำให้การจดจำกลุ่มดาวต่าง ๆ ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังทำให้การดูดาวมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน สำหรับประเทศไทยซึ่งมี ตำแหน่งบนโลกคือ ละติจูดประมาณ 15 องศาเหนือ ณ ตำแหน่งนี้คนไทย จะเห็นกลุ่มดาวได้ราว 74 กลุ่ม ครอบคลุมพื้นที่ระหว่าง Dec. +90 องศาเหนือถึง Dec.-75 องศาใต้ ดังนั้นเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ เราจะแบ่งกลุ่มดาวออกเป็นส่วนๆ คือ 1) กลุ่มดาวซีกฟ้าเหนือ โดยการใช้แนวเส้นศูนย์สูตรฟ้า (Dec 0 องศา) เป็นตัวแบ่ง นับไปทางขั้วฟ้าเหนือ (Dec +90) ซึ่งแนวเส้นศูนย์สูตรฟ้านี้จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของผู้สังเกตเป็นหลัก ถ้าผู้สังเกตอยู่ซีกฟ้าเหนือ เส้นศูนย์สูตรฟ้าของเฉียงค่อนไปทางใต้ ห่างจากจุดกลางศีรษะเราเท่ากับตำแหน่งละติจูดที่ผู้สังเกตอยู่ เช่นประเทศไทย อยู่ละติจูด 13.5 องศาโดยเฉลี่ย(ตำแหน่งของกรุงเทพฯ) เส้นศูนย์สูตรฟ้าจะเองค่อนไปทางใต้ 13.5 องศาด้วยเช่นกัน ![]() ![]() 2) กลุ่มดาวซีกฟ้าใต้ โดยการใช้แนวเส้นศูนย์สูตรฟ้า (Dec 0 องศา) เป็นตัวแบ่ง นับไปทางขั้วฟ้าใต้ (Dec -90) ![]() ![]() 3) กลุ่มดาวจักรราศี คือกลุ่มดาวที่อยู่ในแนวที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่าน เราเรียกเส้นนี้ว่า สุริยวิถี (Ecliptic) เคลื่อนที่ผ่านกลุ่มดาวที่แน่นอน 12 กลุ่มในรอบ 1 ปี การสังเกตกลุ่มดาวจักรราศีนี้จะอยู่ใกล้เคียงกับแนวเส้นศูนย์สูตรฟ้า โดยมีตำแหน่งห่างมากที่สุด 23.5 องศา เท่ากับแกนเอียงของโลก ปัจจุบันตำแหน่งสูงสุดทางซีกฟ้าเหนืออยู่บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) และตำแหน่งต่ำสุดทางซีกฟ้าใต้อยู่บริเวณกลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius) การไล่ตำแหน่งกลุ่มดาวจักรราศี จะไล่จากทิศตะวันตกไปตะวันออกบนท้องฟ้า 4) กลุ่มดาวแนวทางช้างเผือก เป็นการคาบเกี่ยวระหว่างข้อ 1 ถึง 3 เป็นแนวกลุ่มดาวพิเศษที่แยกมาเพื่อง่ายต่อการจดจำอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากแนวทางช้างเผือกนั้นจะมีแนวผ่านกลุ่มดาวที่แน่นอนบนท้องฟ้า ซึ่งตำแหน่งศูนย์กลางของทางช้างเผือกนั้นจะอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างกลุ่มดาว แมงป่อง (บริเวณหาง) กับกลุ่มดาวคนยิงธนู ใกล้กับแนวเส้นสุริยะวิถี (Ecliptic) ทำมุมระหว่างกัน 60 องศา โดยจะไล่ไปทางซีกฟ้าเหนือผ่านไปทางกลุ่มดาวนกอินทรีย์(Aquila) ลูกธนู(Sagitta) หงส์(Cygnus) เซเฟอุส(Cepheus) คาสสิโอเปีย(Cassiopeia) เปอร์เซอุส(Perseus) สารถี(Auriga) คนคู่(Gemini) ม้ายูนิคอน(Monoceros) สุนัขใหญ่(Canis Major) ท้ายเรือ(Pupis) ใบเรือ(Vela) กระดูกงูเรือ(Carina) บางเขนใต้(Crux) ม้าครึ่งคน(Centaurus) แท่นบูชา(Ara) และ แมงป่อง(Scorpius) ครบรอบ ![]() ![]() Zodiac คำนี้มาจากภาษาละติน คำว่า zōdiacus , มาจากภาษากรีก ζωδιακός κύκλος (zōdiakos kuklos) หมายถึง " วงกลมของสัตว์ " (Circle of animal), ζώδιον (zōdion) ζῶον (zōon) หมายถึง "สัตว์เล็กๆ " (Animal) และ ได้ใช้สัตว์ชนิดต่างๆ บนวงกลม เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ ส่วนคำไทย ใช้คำว่า จักรราศี หมายถึง วงล้อ วงกลม ของกลุ่มดาวรูปต่างๆ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 12 ส่วน แทนด้วยสัตว์จริง หรือสัตว์สมมุติ กลุ่มดาวจักรราศี (Zodiac) ทั้ง 12 คือ กลุ่มดาวฤกษ์ 12 กลุ่มที่ปรากฏอยู่ตามแนวเส้นสุริยวิถี (Ecliptic) ฮิปปาร์คัส ( Hipparchus )แบ่งแถบเส้นสุริยวิถี (Ecliptic) ซึ่งเป็นแถบกว้าง 16 องศา กว้างวัดจากสุริยะวิถี (Ecliptic) ไปข้างละ 8 องศา รอบท้องฟ้าออกเป็น 12 ส่วน แต่ละส่วนกว้าง 30 องศา ทุกราศีมีดาวฤกษ์ประจำอยู่ 1 กลุ่ม จึงเรียกกลุ่มดาว 12 ราศี เวลาดูในท้องฟ้า จะเห็นกลุ่มดาว 12 ราศีเรียงตามลำดับ จาก ทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออก และจะมีชื่อเรียกตามกลุ่มดาวที่อยู่ในแถบแนวเส้นสุริยวิถี (Ecliptic) นี้ว่า " เครื่องหมาย หรือ สัญลักษณ์จักรราศี (Sign of the Zodiac) "
|
การส่ายของแกนโลก (Precession) เนื่อง จากโลกโคจรไปรอบๆดวงอาทิตย์ โดยที่แกนโลกเอียง ทำมุมประมาณ 23.5 องศา กับ แนวตั้งฉากกับแนวการเคลื่อนที่ของโลก รอบดวงอาทิตย์ แกนดังกล่าวไม่ได้เอียงคงที่ แต่จะส่าย เช่นเดียวกับแกนของลูกข่าง ที่ส่ายในขณะที่หมุน และเคลื่อนที่ไปรอบๆ เพียงแต่ขนาดของวงโคจร ที่โลกเคลื่อนที่ มีขนาดใหญ่กว่ามาก ทำให้คาบเวลาในการส่าย ใช้เวลานานถึง 26,000 ปี ซึ่งปัจจุบัน แกนขั้วฟ้าเหนือ ชี้ไปใกล้กับดาวเหนือ (Polaris) และจะชี้ไปใกล้ดาวเหนือ มากที่สุด ประมาณปี ค.ศ.2100 และ ในอีกประมาณ 13,000 ปีจากปัจจุบัน แกนขั้วฟ้าเหนือ จะชี้ไปใกล้ดาววีกา (Vega) ในกลุ่มดาวพิณ (Lyra) แทน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้จุด Vernal Equinox ค่อยๆขยับ ไปทางทิศตะวันตกช้าๆ ปีละประมาณ 50 ฟิลิปดา (50/3600 องศา) นั่นเอง ในอดีตกาล ดาวขั้วฟ้าเหนือของชาวอียิปต์โบราณ ประมาณ 4800 ปีมาแล้ว คือ ดาวทูบาน (Thuban) ในกลุ่มดาวมังกร (Draco) ซึ่งเป็นดาวดวงที่ 3 นับจากหางรูปมังกร ซึ่งทำให้ปิระมิดของชาวอียิปต์ มีช่องจากภายใน ชี้ไปดาวทูบานนั่นเอง ข้อมูลจาก | ||||||
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น